การนำมือถือไปใช้เมืองนอก

หิ้วสมาร์ทโฟนไปใช้ต่างแดน เตรียมตัวก่อนเจอ Bill Shock  
ถามกันเยอะ ตอบกันหลายหน... เคลียร์ชัดๆ กับการนำมือถือไปใช้เมืองนอก
++++++++++++++++++++++++++++++
หิ้วสมาร์ทโฟนไปใช้ต่างแดน เตรียมตัวก่อนเจอ Bill Shock
ในโอกาสเข้าสู่เทศกาลวันหยุด และมหกรรมปิดเทอมใหญ่
หลายคนใช้โอกาสนี้หลบร้อนไปพักผ่อนต่างประเทศ
ขณะที่โทรศัพท์มือถือยังเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิต
แต่จะถือไปเฉย ๆ โดยไม่ได้เตรียมตัวก่อน
อาจกลับบ้านมาพบใบแจ้งหนี้ค่าบริการแล้วอาจหมดสนุกไปเลย


bill shock ทำหมดสนุก 

จากการเก็บข้อมูลของกลุ่มภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภค
ในกิจการโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พบว่า

ปัญหา bill shock มีการร้องเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ละรายมูลค่ายังสูง
มาก บางรายโดนเรียกเก็บค่าบริการข้ามแดนอัตโนมัติ (โรมมิ่ง) สูงถึง
300,000 บาท

สาเหตุสำคัญมาจากผู้ใช้บริการไม่ทราบเงื่อนไขในการใช้บริการโรมมิ่ง
เช่น ไม่รู้ว่ามีค่าบริการรับสาย ไม่ทราบว่าในบางประเทศหากโทร.ออก
แล้วไม่มีผู้รับหรือมีผู้โทร.เข้าแต่ไม่ได้รับสายก็คิดค่าบริการเท่ากับใช้
งาน 1 นาที หรือไม่สามารถประเมินปริมาณข้อมูลที่ใช้งานในแต่ละรูป
แบบได้ ยิ่งปัจจุบันสมาร์ทโฟนทันสมัยขึ้นมาก ผู้ใช้บางรายไม่รู้ว่า
สมาร์ทโฟนเชื่อมต่อข้อมูลได้อัตโนมัติ มีหลายแอปพลิเคชั่นเชื่อมต่อ
อินเทอร์เน็ตตลอดเวลา



รู้ฟังก์ชั่นมือถือ-แพ็กเกจซิม
ดังนั้น นอกจากควรรู้จักฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของโทรศัพท์มือถือที่ตนใช้แล้ว
การเลือกแพ็กเกจค่าบริการ หรือ "ซิม" ที่เหมาะสมกับการนำไปใช้งานใน
ต่างประเทศมีความจำเป็นมาก

จากการสำรวจข้อมูลของ "ประชาชาติธุรกิจ" พบว่าค่ายมือถือพยายาม
ชูจุดเด่นที่แตกต่างกัน อาทิ ดีแทค ชูจุดเด่นเรื่องการใช้งานง่าย
ลูกค้าไม่ต้องเลือกโครงข่ายในแต่ละประเทศที่จะโรมมิ่ง
แม้แต่ค่าบริการ SMS ที่ส่งจากต่างประเทศก็เก็บค่าบริการเท่ากัน
12 บาทต่อข้อความทั่วโลก เป็นต้น


ขณะที่ ค่ายทรูมูฟ (รวมถึงทรูมูฟ เอช) มักมีโปรโมชั่นพิเศษร่วมกับ
พันธมิตรในต่างแดน ล่าสุดลดค่ารับสายสูงสุด 70% หากเลือกโรมมิ่ง
กับโครงข่ายที่ทำข้อตกลงไว้ เช่น นำซิมทรูมูฟไปใช้ที่จีนแล้วเลือก
โรมมิ่งบนเครือข่ายของไชน่าโมบาย ค่ารับสายจะลดเหลือนาทีละ
9.49 บาท จากปกตินาทีละ 43.24 บาท หรือที่ถูกสุด ๆ คือเลือกโรมมิ่ง
กับ NTT DoCooMo เมื่อใช้ที่ญี่ปุ่นค่ารับสายเหลือนาทีละ 7.50 บาท
จากปกตินาทีละ 25 บาท

ฟาก "เอไอเอส" นอกจากมีซิม "sim2fly" ซิมเติมเงินสำหรับใช้งาน
ในต่างประเทศราคาประหยัด แม้คุณภาพสัญญาณเสียงจะอยู่ในระดับ
VOIP (โทร.ผ่านอินเทอร์เน็ต) แต่ค่าบริการดึงดูดใจไม่ใช่เล่น อาทิ
โทร.กลับไทย/รับสายนาทีละ 10 บาท เมื่อนำไปใช้งานที่ญี่ปุ่น
แคนาดา เยอรมนี ออสเตรเลีย และลาว ทั้งเน้นจัดเป็นแพ็กเกจ
เช่น แพ็กเกจรวมบริการ Voice+SMS ราคาเริ่มต้น 350 บาท
(ขึ้นอยู่กับประเทศที่จะนำไปใช้งาน) อาทิ แพ็กเกจ Voice+SMS
ในสิงคโปร์หรือฮ่องกง ค่าบริการ 560 บาท สำหรับการโทร.ออกได้
15 นาที SMS ได้ 15 ครั้ง หรือหากต้องการโทร. 30 นาที SMS 30
ครั้ง ค่าบริการอยู่ที่ 990 บาท

โดยลูกค้าต้องใช้งานผ่านเครือข่ายที่เอไอเอส ระบุไว้เท่านั้น
หากใช้งานบนเครือข่ายอื่นจะคิดค่าบริการเพิ่มจากแพ็กเกจที่เหมาไว้


ส่วนโปรโมชั่นการใช้งานดาต้าโรมมิ่ง ตอนนี้เรียกว่าแต่ละค่ายแข่งกัน
ดุเดือดเลือดพล่าน


สมาร์ทโฟนคู่ดาต้าโรมมิ่ง

เปิดทัพด้วยพี่ใหญ่ "เอไอเอส" มีแพ็กเกจ "Unlimited Data Roaming"
ใช้ท่องเน็ตได้ไม่อั้นใน 20 ประเทศเด่น ๆ มีทั้งระบบโพสต์เพดและ
พรีเพด แต่ต้องเลือกเครือข่ายตามที่กำหนดไว้ในแต่ละประเทศทุกครั้ง
ที่ใช้งานเท่านั้น

โดยมีให้เลือกแบบรายวัน 3 วัน และ 5 วัน ราคา
แตกต่างกันตามประเทศที่ไป เช่น เกาหลีใต้ จีน มาเก๊า สิงคโปร์
ฮ่องกง ออสเตรเลีย ค่าบริการใช้ไม่อั้น 1 วัน 350 บาท 3 วัน 950
บาท และ 5 วัน 1,400 บาท

ขณะที่ญี่ปุ่น เยอรมนี สเปน อังกฤษ ราคาจะเพิ่มเป็นวันละ 450 บาท
หรือ 1,300 บาทสำหรับ 3 วัน และ 2,000 บาทหากใช้ 5 วัน


น้องเล็กอย่างทรูมูฟ (รวมทรูมูฟ เอช) ก็มีแพ็กเกจดาต้าใช้ไม่อั้น
11 ประเทศในเอเชียและอเมริกา "Data Roaming Flat Rate"
โดยคิดค่าบริการวันละ 333 บาท หากใช้งานบนเครือข่ายที่กำหนด

อาทิ StarHub ในสิงคโปร์ NTT DoCoMo ในประเทศญี่ปุ่น Hutch และ
H3G ในฮ่องกง ล่าสุดเพิ่งเปิดบริการ "WiFi Roaming" ให้ลูกค้าทรูมูฟ
และทรูมูฟ เอชแบบรายเดือนใช้ WiFi ได้ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง
เกาหลี ไต้หวัน จีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ผ่านเครือข่าย
ฮอตสปอตของพันธมิตร โดยลูกค้าทรูมูฟ เอชได้รับโปรโมชั่นพิเศษ
ค่าบริการนาทีละ 2 บาท จ่ายสูงสุด 149 บาท/วัน (ใช้ไม่ถึง
จ่ายตามจริง) ถึง 30 มิ.ย.นี้


สำหรับดีแทคแม้ไม่มีโปรฯดาต้า 3G หรือ EDGE แบบใช้ไม่อั้น
แต่ชูจุดเด่นที่แตกต่างด้วยการใช้งานได้ไม่จำกัดเครือข่าย
พร้อมพ่วงให้ใช้ WiFi ฟรีไม่อั้นได้อีกกว่า 700,000 จุด ใน 117
ประเทศ หากสมัครใช้แพ็กเกจดาต้าโรมมิ่งใดก็ได้ แต่ละแพ็กเกจคิดตาม
ปริมาณข้อมูลที่ใช้งาน เริ่มต้นที่วันละ 25 MB ในราคา 350 บาท
75 MB ภายใน 3 วัน ราคา 950 บาท 175 MB ภายใน 7 วัน ราคา
2,100 บาท และ 500 MB ภายใน 7 วัน ราคา 2,599 บาท


ตั้งค่ามือถือแบบ manual

จากสารพัดแพ็กเกจที่ค่ายมือถือขนออกมาประชันกัน พบว่า
สิ่งที่ผู้บริโภคต้องรู้อันดับแรกคือการตั้งค่าโทรศัพท์ให้ใช้งานบน
เครือข่ายที่ระบุในแพ็กเกจเท่านั้น

วิธีที่ดีที่สุดคือตั้งค่าโทรศัพท์ให้เลือกเครือข่ายแบบ manual เท่านั้น
ถ้าไปอยู่ในที่อับสัญญาณ ผู้ใช้ต้องตั้งค่าเลือกเครือข่ายใหม่ทุกครั้ง
เพื่อป้องกันไม่ให้โทรศัพท์แสนฉลาดทั้งหลายไปจับสัญญาณที่
คลื่นแรงกว่าโดยอัตโนมัติ

วิธีตั้งค่าดูจากคู่มือการใช้โทรศัพท์ของคุณเอง หรือปรึกษา
คอลเซ็นเตอร์ของผู้ให้บริการแต่ละรายได้

นอกจากนี้ ในแอปพลิเคชั่นสโตร์ของมือถือแต่ละราย
มักมีแอปพลิเคชั่นที่ช่วยในการเปิดปิดการใช้ดาต้า
หรือตรวจสอบการใช้งานดาต้าด้วย หากโหลดมาไว้ในเครื่อง
ก็จะเป็นตัวช่วยที่ดี อาทิ ลูกค้าทรูมูฟใช้แอนดรอยด์ สามารถ
ดาวน์โหลด "Conexus Network Select Application" มาใช้ได้ฟรี
เพื่อให้ช่วยตรวจสอบว่าขณะนี้ได้เชื่อมต่ออยู่บนเครือข่ายที่ถูกต้อง
ตามแพ็กเกจที่สมัครไว้หรือไม่ ป้องกันการถูกชาร์จจากการใช้งานบน
เครือข่ายนอกแพ็กเกจ

หรือลูกค้าดีแทคมี "dtac roaming app" ช่วยแจ้งปริมาณการใช้งาน
ดาต้า ที่สำคัญคือหากไม่ได้เหมาแพ็กเกจดาต้าแบบใช้ไม่อั้น
ต้องไม่ลืมปิดระบบ หรือ log out เมื่อใช้งานเสร็จทุกครั้ง


สิ่งที่ผู้บริโภคต้องรู้อันดับต่อมาคือ การใช้งานแต่ละแบบใช้ปริมาณ
ดาต้าเท่าไร คำนวณคร่าว ๆ คือ เปิดเว็บไซต์ 1 หน้า หรือแชต 1 ชั่วโมง กินดาต้า 0.5 MB แต่ถ้าดูคลิปผ่าน youtube แค่ 1 นาที
ใช้ดาต้าถึง 1.5 MB

หากดูแพ็กเกจดาต้าโรมมิ่งที่เริ่มต้นด้วยการใช้งาน 25 MB ต่อวัน
จะใช้งานอะไรได้บ้างนั้น ดีแทคประมาณการไว้ให้คือ แชตได้
10 ชั่วโมง เช็กอีเมล์ได้ 50 ฉบับ (ข้อความล้วน)
อัพรูปขึ้นเฟซบุ๊ก 50 รูป และคอมเมนต์เฟซบุ๊กได้ 100 ครั้ง


ปัจจุบันบนเว็บไซต์ของผู้ให้บริการแต่ละรายจะมีอุปกรณ์ช่วยคำนวณ
ให้อยู่แล้ว หากศึกษาข้อมูลก่อนเดินทางมีประโยชน์มาก

ข้อควรรู้อีกประการคือ ซิมเติมเงินปัจจุบัน หลายค่ายที่เปิดใช้งาน
โรมมิ่งให้โดยลูกค้าไม่ต้องสมัครขอเปิดบริการ ดังนั้นก่อนเดินทาง
ไปต่างประเทศกรุณา เช็กกับคอลเซ็นเตอร์ก่อนว่า ซิมของคุณเปิดใช้
บริการโรมมิ่งอยู่หรือไม่ ลูกค้ามีสิทธิ์เลือกได้ว่าต้องการใช้เฉพาะ
Voice SMS หรือดาต้า หากบริการใดไม่ต้องการใช้ให้แจ้งปิดไว้ล่วงหน้า
เพื่อป้องกันการเชื่อมต่อโดยสมาร์ทโฟน


หากไม่แน่ใจการใช้โรมมิ่งหรือรู้สึกว่าค่าบริการแพงเกินไป แนะนำให้ซื้อ
ซิมการ์ดผู้ให้บริการในประเทศปลายทางมาใช้เพราะส่วนใหญ่ราคา
ถูกกว่าโรมมิ่งมาก


หากยังกังวลว่าจะไม่ได้รับสายสำคัญจากเมืองไทย "กสทฯ" มีบริการ
CAT international call forward หรือบริการโอนสายไปต่างประเทศที่
ให้คุณรับสายที่โทร.เข้าเบอร์เดิมได้แม้อยู่ในต่างประเทศ โดยระบบจะ
โอนสายเรียกเข้าส่งต่อไปยังเบอร์มือถือของประเทศที่เดินทางไป


ผู้ใช้บริการจึงไม่ต้องแจ้งให้ผู้อื่นทราบว่ามีการเปลี่ยนเบอร์ บริการนี้
ประหยัดค่ารับสายราว 60%


ยอมเสียเวลาสักนิดเตรียมตัวก่อน "โกอินเตอร์"



ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1334161740&grpid=&catid=06&subcatid=
เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 
--------------------------------------------------------------------------
 
ความคิดเห็นที่ 8  
กระทู้ดีมีสาระ แต่ผมไปต่างประเทศจะเปิด Airplane Mode ใช้อย่างเดียว ไม่อยากเสียตังค์ อิอิ

 
 ความคิดเห็นที่ 9    
1 ปิด gprs จากระบบเลย กดดอกจันอะไรเนี่ยหล่ะ แล้วแต่ค่าย
2 ปิดvoice mail
3 เปิด airplan โหมด



 
 ความคิดเห็นที่ 10  
คนก็ไม่ค่อยรู้ว่า เดี๋ยวนี้ค่ายมือถือบางทีแอบเปิดบริการโรมมิ่งให้
ต่างกับเมื่อก่อนที่กว่าจะเปิดได้ เอกสารยิบยับ ใช้เวลาตั้ง 3 วันทำการ

เราเอง แม้แต่รุ่นพี่ๆ ที่เชี่ยวชาญในวงการโทรคมก็ไม่เคยรู้มาก่อน
จนมาเจอเหตุการณ์เงินในซิมหายเกลี่ยง
ตั้งแต่ยังไม่ทันออกจากประตูเครื่องที่สนามบินฮ่องกง -_-'

แต่ขอย้ำว่า ข้อมูลที่เอามาแปะไว้ อัพเดทให้ใช้ได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น
แต่ละค่ายมักจะมีโปรใหม่ๆ ผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ต้องอัพเดทโปร
ก่อนเดินทางทุกครั้ง


 ความคิดเห็นที่ 15  
สำหรับเรานะ เปิด airplane mode  และ เปิด wifi   และปิด data roaming
ปิด gprs *129*1# ค่ะสำหรับ ais นะ และเล่นไวไฟฟรีที่มีสัญญาณค่ะ กลับมาเช็คก็ไม่มี เน็ตรั่วนะคะ



 
 ความคิดเห็นที่ 16  
เข้ามาตอบเพราะพึ่งกลับจากเกาหลีมาครับ เพื่อนหลายคนในก๊วนเปิด AirPlane Mode ตลอด 4 วัน
**ยืนยันว่าเปิด Airplane Mode แล้วยังเชื่อมต่อ Wifi ได้นะครับ... (iPhone)
ส่วนผมหนีไปใช้ sim One 2 call เติมเงินแค่พอใช้สำหรับ Package data roaming และส่ง SMS เท่านั้นครับ เล่นเนทสบายๆ รับส่ง email ได้ตลอดทั้งทริปครับ
สำหรับการปิดเปิด Data ของ AIS ก็ทำตามนี้ครับ
หมดกังวลเรื่อง Data (3G/EDGE/GPRS) ขณะใช้งานอยู่ต่างประเทศ ง่ายๆ เพียง
กด *129*1#โทรออก เพื่อปิดการใช้งาน Data
กด *129*2#โทรออก เพื่อเปิดการใช้งาน Data
กด *129#โทรออก เพื่อตรวจสอบ Status ปิด-เปิดการใช้งาน Data
ของ AIS ดีอยู่อย่างนึง คนโทรมาแต่เราไม่รับสาย เงินไม่โดนตัดนะครับ และรับ SMS ฟรีอีกด้วย... (ผมไม่ได้เป็นหน้าม้า AIS นะครับ แต่ใช้มาแล้วอยากแชร์ให้ฟัง)
การกดปิดจากระบบเลยจะชัวร์กว่าครับ เนทไม่รั่วแน่นอน


 
 ความคิดเห็นที่ 19  
อ้อๆๆ  เผื่อบางคนจะยังไม่รู้
ข้อมูลเพิ่ม

1. ส่ง MMS   ณ ต่างแดน
เสียตังค์ 2 ต่อนะ เพราะต้องเสียทั้งค่าดาต้าโรมมิ่ง+ค่าส่ง MMS
ส่วนการรับ MMS ก็จะเสียค่าดาต้าโรมมิ่งในการโหลดไม่เหมือน SMS ที่รับฟรี

2. การสมัครแพคเก็จเหมาเป็นวันๆ กรุณาเช็คกับค่ายมือถือ
เพราะส่วนใหญ่ตัดวัน ณ 24.00 น. ไม่ใช่ 24 ชั่วโมง

3. การโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ค่ายมือถือไทย
มีบางค่ายที่จะต้องเสียตังค์ เช็คข้อมูลก่อนออกเดินทาง
เพราะโปรต่างๆ เปลี่ยนได้เสมอ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า

4.อย่าใช้โทรศัพท์ที่เปิดโรมมิ่งคู่กับการใช้งานบัตรโทรศัพท์
(calling card) เพราะจะถูกตัดเงิน 2 ทาง คือ
โดนคิดค่าโรมมิ่งเรทโทรกลับไทย และหักค่าโทรจาก  Calling card

5.การกำหนดวงเงินสูงสุดของแต่ละซิม
ไม่มีผลกับการใช้งานโรมมิ่งนะวุ้ยยยย
เงินเดินกันได้เป็นแสนๆ ไม่มีเพดานจำกัด
และอย่าหวังน้ำบ่อหน้า ใช้ไปก่อน กะเจรจากับค่ายมือถือ
ต่อราคาเป็นผักปลา หรือใช้พลังพันทิปเข้าช่วย
เพราะบิลพวกนี้ ค่ายมือถือต่างประเทศก็เรียกเก็บมาที่ค่ายไทยอีกต่อ
ฉะนั้นเขาลดยอดหนี้ให้ได้ไม่เยอะหรอก
อืมมม น่าจะครบแล้วนะ ข้อควรรู่ก่อนโกอินเตอร์


 

 
 ความคิดเห็นที่ 23  
ปกติแล้วซิม Happy Dtac จะเปิดใช้งาน Roaming ให้อยู่แล้วครับ ดังนั้นคุณสามารถใช้โทรและรับสายที่ต่างประเทศได้เลย และเหมือนกัน One 2 Call ที่ต้องแจ้งเปิด Roaming ก่อนเดินทางครับ




 
 ความคิดเห็นที่ 32
เมื่อผมเดินทางไปต่างประเทศ ทุกครั้งต้องตรวจสอบการใช้งานในประเทศนั้นๆเสมอ ผมใช้ DTAC ต้องตรวจกับสำนักงาน Dtac ตลอด จะพบว่า
* ราคาไม่เท่ากันทั้งโทรเข้า โทรออก รับสายอยู่แล้ว
* การคิดเงินเมื่อไม่รับสาย แต่โทรศัพท์ดังก้ไม่เหม่ือนกันหมดครับ มีบางประเทศไม่คิดเงิน แต่หลายประเทศคิดเงิน

* Miss call คือการที่คุณไม่รับสาย ปิดเครื่องแต่เมื่อเปิดเครื่อง ระบบจะแจ้งว่ามีหมายเลขใดโทรเข้ามา โดย SMS หลายประเทศ ไม่คิดเงิน แต่บางประเทศก็ยังคิดเงิน บริการนี้ของ DTac เรียกแจ๋ว ถ้าไปประเทศที่คิดเงิน อาจจะต้องปิดไว้
* Voice mail ส่วนใหญ่จะไม่คิดเงินถ้าคุณไม่โทรเข้าไปฟังโดยตรงจากเครื่องของคุณ DTac มีบริการโ?รจากหมายเลขอื่นเข้าไปและใส่หมายเลข และรหัสผ่าน ก็จะฟังข้อความได้ โดยเสียค่าบริการตามที่โทร ในกรณีผม ใช้มือถือต่อ wifi เข้าไปฟังจะเสียแค่ นาทีละ 70 สต. ดังนั้นไม่ถึงกับตองปิด Voicemail ให้ตรวจสอบละอียดจะทราบเอง
แต่ในกรณีที่ miss call ที SMS  แล้วเขาคิดเงิน ก็ต้องปิดบริการ Voicemail ไปเลย


- การใช้งาน ผมจะ
- ใช้เบอร์สำรอง เป็นหมายเลขเติมเงินเสมอ ให้รู้เฉพาะคนที่สำคัญจริงๆจะติดต่อเรา
- เติมเข้าไปพอควร ในกรณีที่พลาด อย่างมากก็หมดแค่เงินที่เติม ไม่ควรเอาเครื่องรายเดือนไปเด็ดขาด
- เปิด Roaming และ ตรวจสอบข้อกำหนดต่างๆเสมอ
- ปิดเครื่องไว้เป็นส่วนใหญ่ เปิดเฉพาะเวลาที่ต้องการตรวจสอบว่าใครโทรเข้ามาเท่านั้น (หรือจะเปิดโหมด Airplane ก็ได้)
- ปิด GPRS ไว้ตลอด (ผมปิดตลอดอยู่แล้วแม้แต่ในไทย ยกเว้รเวลาจะใช้ค่อยเปิด)
- Dtac มีบริการ SMS ฟรี ผ่านเวปในเครือข่ายเดียวกันและ2 บาท ผ่านเครือข่ายอื่น เป็นช่องทางที่ดีสำหรับติดต่อคนอื่นโดยไม่ต้องโทร

ข้อเสนอพิเศษจาก อโกด้า Promotion!

http://www.agoda.co.th/

สอบถามเรื่องแลกเงินไปเที่ยวเกาหลีครับ

อยากทราบว่า แลกเงินวอนจาก ซุปเปอร์ริช ไปเลย หรือว่าแลก Dollar จากไทย แล้วค่อยแลกเป็นวอนที่นู่นดีกว่าครับ ?

แล้วเกาหลีนอกจากเครื่องสำอาง-โสม ควรซื้ออะไรกลับมาไทยดีครับ (เช่นของที่ เกาหลีถูกกว่าของที่ไทยมากๆอะครับ)
ขอบคุณครับ
เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 55 

 
 ความคิดเห็นที่ 1  
แลกเป็นเงินวอนไปเลยคะ แต่แลกแค่ประมาณการว่าจะใช้ เพราะเวลาแลกคืนจะขาดทุนเยอะคะ
ส่วนใหญ่ร้านขายเครื่องสำอางค์รูดบัตรเครดิตได้ ถ้านำเงินไปไม่พอ แล้วอยากได้ของที่ไม่อยู่ในรายการประมาณค่าใช้จ่าย
ถ้าไม่มีบัตรเครดิตมีบัตรเอทีเอ็มแบบเดบิตสามารถไปกดเป็นเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มที่มีเครื่องหมายvisaคะ ค่ากดต่อครั้งแล้วแต่ธนาคารคะ ประมาณ 75-100 บาท
ถ้าไม่มีจริงๆแล้วกลัวว่าจะเกินงบ แลกดอลล่าร์ไปเผื่อก็ได้คะ เพราะไม่ใช้กลับมาแลกคืนขาดทุนน้อยกว่า

เครื่องสำอางค์ของเกาหลี(ยี่ห้อของเกาหลีนะคะ)จะราคาถูกกว่าที่ขายร้านค้าบ้านเรา แต่เทียบกับพวกหิ้วเข้ามาขายอาจถูกกว่าไม่มาก แต่เราจะได้ของแถมของตัวอย่างเยอะ ลองหาราคาของในเวปก่อนคะ ส่วนใหญ่ยี่ห้อต่างๆจะมีเวปของสินค้ายี่ห้อนั้นอยู่แล้ว ราคาที่ขายในร้านก็ราคาตามในเวปคะ จะได้ประมาณการแลกเงินถูก

ราคาโสมไม่รู้เหมือนกันคะ
เสื้อผ้าของเกาหลีราคาไม่ถูกคะ แต่เนื้อผ้าจะดีกว่าของบ้านเรา
ตอนเราไปได้กิมจิกลับมา2กิโล อร่อยมากคะถ้าชอบกินกิมจิสมควรซื้อ
ของฝากยอดฮิตก็พวกสาหร่าย สตอเบอรี่(เสียดายตอนไปไม่ได้กิน ตั้งใจจะซื้อตอนขากลับแต่ไม่มีเวลา)


 ความคิดเห็นที่ 2  
แลกไปเลยดีกว่าค่ะ กะเอาแบบพอดี ๆ ถ้าไม่พอค่อยรูดบัตร
สำหรับโสม  ถ้ากินเป็นประจำอยู่แล้วแนะนำให้ซื้อค่ะ เพราะโสมเขามีคุณภาพ   จึงทำให้ราคาก็สูงตามด้วย

ที่เมียงดง มีถุงเท้าคู่ล่ะ 1000 วอน ลายน่ารัก ๆ ดีคะ แปลกดีด้วยเราซื้อกลับมาหลายคู่เลย ตอนกลางคืนมีรถเข็นขายของเต็มซอยไปหมด มีของน่ารัก ๆ เยอะเลย ลองไปเลือกดูค่ะ

ถ้าชอบรองเท้า ไม่ว่าจะบูท ผ้าใบ รองเท้าใส่เล่น  ห้างที่อยู่ข้าง dota (เราจำชื่อไม่ได้แล้วอ่ะ)  มีแบบให้เลือกเยอะจนเลือกไม่ถูกเลย
สตอเบอรี่ ลองซื้อกินก่อนว่ายี่ห้อไหนอร่อย (เราไป 5 วันกินทุกวันเลย) แล้วขากลับค่อยซื้อ



 
 ความคิดเห็นที่ 3  
ถ้าสะดวกไปแถวราชดำริ แถวนั้นเรทดีครับ เรทซื้อเรทขายต่างกันแค่นิดเดียว แลกสามพันบาทก็มีส่วนต่างประมาณ 30-40 บาท วันนี้ผมเพิ่งไปขายคืนแสนกว่าวอน ขาดทุนไปไม่ถึง 50บาท ถ้าคุณไม่ติดเรื่องต้องเดินทางไปราชดำรินะ ผมแนะนำให้แลกเงินเผื่อไปเลย วันนี้เรทขายอยู่ที่ 0.0282 เรทซื้อ 0.0280 สำหรับธนบัตร 5000วอนขึ้นไปนะ ธนบัตรใบละ 1000วอนอย่าเอากลับมาเยอะ เรทต่ำกว่า วันนี้ได้แค่ 0.026 เอง

แต่ถ้าไม่สะดวกไป หรือต้องเดินทางไกลเพื่อไปราชดำริ ก็ต้องลองหาร้านแลกเงินที่ใกล้ๆหน่อย แล้วเทียบเรทซื้อเรทขายดูครับ คำตอบอยู่ตรงนี้แหละ ถ้าไม่ต่างกันมาก ก็ตุนไปเต็มที่ แต่ถ้าต่างกันเยอะ ก็พยายามแลกให้พอดี

ของฝาก สตอเบอรี่แพ๊คใหญ่ มี4กล่องเล็ก น้ำหนักรวมเกือบ 4kg. ราคาประมาณ 45000วอน เก็บได้ 3-5วัน โสมมีตั้งแต่กล่องละหลายพัน ยันกล่องละหลายหมื่นครับ และมีสมุนไพรอีกตัว จำชื่อไม่ได้แล้ว เขาว่ากำลังฮิตมาก กล่องละแสนกว่าบาท ไม่ใช่วอนนะครับ บาทไทย เรื่องโสมกับสมุนไพร เขาเน้าว่าซื้อที่โน่นจะได้ของแท้ เพราะที่เมืองไทยแทบไม่มีของแท้เลย กว่า90%เป็นโสมจีนมาสวมรอย

ผมเพิ่งไปกะทัวร์ ที่เห็นช๊อปกันแหลกรานก็คงเป็นเครือ่งสำอางครับ แต่ผมไม่รู้รายละเอียดหรอก ไม่เคยใช้


ข้อเสนอพิเศษจาก อโกด้า Promotion!

http://www.agoda.co.th